
Melasma รักษาฝ้ากันเถอะ!
.jpg)
ฝ้าคืออะไร?
ฝ้าเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่พบบ่อย มักพบเป็นปื้นสีน้ำตาลถึงดำ ทั้งสองข้างของใบหน้า
ใครบ้างที่มักเป็นฝ้า?
ฝ้าเป็นโรคผิวหนังที่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มักเริ่มพบในช่วงอายุ 20-40 ปี พบได้ง่ายในคนที่มีผิวสีเข้มมากกว่าคนที่มีผิวขาว
อะไรเป็นสาเหตุของฝ้า?
สาเหตุของฝ้านั้นมีหลากหลาย ส่วนใหญ่เกิดจากการโดนแดดสะสมมาเรื่อยๆในแต่ละคน (photoageing) เม็ดสีในผิวหนังจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้น ได้แก่ melanocytes, keratinocytes และอาจค่อยๆอยู่ลึกลงไปในผิวหนังชั้นในหรือ melanophages
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับฝ้ามีดังนี้
-
ปัจจัยทางกรรมพันธุ์คิดเป็น 60%
-
การโดนแดดสะสม — แสงยูวีและ visible light เร่งการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง
-
ฮอร์โมน — ที่มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมที่มีฮอร์โมนอยู่ร่วมด้วย รวมไปถึงยาฝังคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนต่างๆ
-
ยาบางชนิด — เช่นยารักษาโรคมะเร็ง สบู่ที่มีน้ำหอมผสมบางชนิด รวมไปถึงเครื่องสำอางบางชนิด
ลักษณะของฝ้า?
ฝ้าจะมองเห็นเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม มักพบบริเวณแก้มทั้งสองข้างเป็นลักษณะสมมาตรกัน ขอบเขตของฝ้าจะไม่เรียบ และมักมีจุดสีขาวอยู่ปื้นสีน้ำตาลด้วย นอกจากแก้มแล้วสามารถพบบริเวณอื่นได้อีกด้วย
ได้แก่
-
Centrofacial — หน้าผาก เหนือริมฝีปาก พบได้ 50-80%
-
Malar — แก้ม จมูก
-
Mandibular — คาง กรอบหน้า
-
Erythosis pigmentosa faciei — อาจจะเป็นรอยแดงและความมีความอักเสบของผิวร่วมด้วย
-
Extrafacial — แขน ไหล่ในบริเวณที่โดนแดดบ่อย
ชนิดของฝ้าสามารถจัดแบ่งเป็นชนิด epidermal dermal และแบบผสม ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน
ลักษณะของฝ้าแบบ Epidermal
-
Border: มักมีขอบเขตชัด
-
Colour: มีสีน้ำตาลเข้ม
-
Treatment: สามารถรักษาได้ง่ายกว่าแบบอื่น
ลักษณะของฝ้าแบบ Dermal
-
Border: มักมีขอบเขตชัด
-
Colour: มักมีสีน้ำตาลอ่อนถึงเทา
-
Treatment: รักษาได้ค่อนข้างยาก
ลักษณะของฝ้าแบบผสม
-
มีสีฟ้าเทา น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้มปะปนกัน
-
Treatment อาจจะรักษาดีขึ้นได้บางส่วน
โรคอื่นๆที่คล้ายกับฝ้า?
-
Post-inflammatory hyperpigmentation รอยดำหลังเกิดการอักเสบของผิวหนัง
-
Solar lentigo and other forms of lentigines and freckles กระจากแดด
-
Naevus of Ota and naevus of Hori. กระลึก
What is the treatment for melasmaการรักษาฝ้าที่ดีที่สุด?
การรักษาหลายๆวิธีรวมกัน ได้ผลดีที่สุด
Topical therapyยาทาเฉพาะที่
ตัวยาทาเฉพาะจุดที่ได้ผลที่ดีที่สุดคือสูตรรวมระหว่าง hydroquinone tretinoin และ steroid สามารถช่วยลดฝ้าได้สูงสุดถึง 60–80% ชนิดอื่นที่สามารถใช้รักษาร่วมด้วยได้ ได้แก่
-
Kojic acid
-
Methimazole
-
Tranexamic acid
-
Glutathione
-
Soybean extract.
-
Arbutin
-
Glycolic acid และยังมีสารอื่นๆอีก
Oral treatment ยารักษาฝ้าแบบกิน
Tranexamic acid ช่วยต้านการเปลี่ยน plasminogen เป็น plasmin ช่วยลดการสร้างสาร prostaglandin ที่เป็นสารเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้า และยังมียากินแบบอื่นที่อยู่ในการศึกษาอีก
Procedural techniques หัตถการวิธีการรักษาอื่นๆ
สารผลัดเซลล์ผิวแบบอื่นที่สามารถใช้ได้เองที่บ้านเช่น alpha-hydroxy acids (AHA) เช่น glycolic acid หรือ beta-hydroxy acids (BHA) เช่น salicylic acid.
วิธีการ Microneedling หรือเมโสแบบสะกิดเข็ม รวมไปถึง intense pulsed light (IPL) และเลเซอร์ต่างๆก็ยังไม่สามารถรักษาฝ้าได้หาย 100% ยังคงต้องใช้วิธีอื่นรักษาร่วมด้วยและควรรักษาอย่างต่อเนื่อง
การหวังผลหลังรักษาฝ้า?
ฝ้าเป็นหนึ่งในโรคที่ต้องใช้ความสามารถในการรักษาสูง ต้องใช้ความร่วมมือในการรักษาทั้งจากทางแพทย์และผู้ป่วยเอง เน้นการรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไปและใช้เวลา เนื่องจากต้องรอยระวังผลข้างเคียงจากการรักษาอีกด้วยและถึงแม้จะรักษาเห็นผลดี แต่ก็สามารถกลับขึ้นมาได้อีกหากไปอยู่ในที่มีอากาศร้อนหรือโดนแดดจัด หนทางที่ดีที่สุดคือการใช้ตัวยาทาเฉพาะจุดอย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงแสงแดดไปตลอด
3 วิธีการรักษาที่แนะนำจากเอซีอีคลินิก
1.Premium Radical white treatment
เป็นการผลัดเซลล์ผิวและเติมสารบำรุงที่มีส่วนช่วยลดการเกิดฝ้าอันได้แก่วิตามินซี อาร์บูตินและฟลูเลอรีน
2.Alpha Arbutin Meso Injection
เป็นการฉีดวิตามินบำรุงผิวเข้าไปทั่วใบหน้าและเน้นบริเวณที่เกิดฝ้า ช่วยทำให้ฝ้าจากลงได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3.Picosecond Laser
เป็นเลเซอร์ลดเลือนจุดด่างดำ โดยเฉพาะฝ้าที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วที่สุด ผลข้างเคียงน้อยที่สุดในปัจจุบัน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดในการรักษาฝ้า แต่การดูแลผิวแบบองค์รวมจะทำให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ฝ้ากลับมาช้าลง และมีผิวกระจ่างใสแบบที่คุณต้องการได้
.jpg)
.jpg)
.jpg)
